เข้าชม 15 ครั้ง
ปรับปรุงครั้งที่ / (วันที่ 29 ก.ย. 68 )
ผู้พัฒนา : แผนกส่งเสริมและเวชกรรมป้องกัน รพ.ค่ายรามราชนิเวศน์
UV Check
ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย โดยเฉพาะระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงจัดและแสงแดดแรง ส่งผลให้กำลังพลที่อยู่ระหว่างการฝึก โดยเฉพาะ “ทหารใหม่” มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคลมแดดและโรคลมร้อน (Heat Stroke และ Heat Exhaustion) ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่อาจส่งผลถึงชีวิตหากไม่ได้รับการป้องกันหรือดูแลอย่างเหมาะสม
คุณสมบัติ
- เพื่อพัฒนานวัตกรรมแผ่นตรวจวัดรังสี UV และอุณหภูมิ (UV Check) ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้สามารถตรวจวัดระดับรังสี UV และอุณหภูมิในสภาพแวดล้อมจริงของการฝึกทหารใหม่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ - เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคลมร้อนในทหารใหม่
โดยการใช้แผ่น UV Check เป็นเครื่องมือเตือนภัยล่วงหน้าให้ครูฝึกและทหารใหม่รู้ระดับความเสี่ยงและสามารถปรับเปลี่ยนการฝึกได้ทันเวลา - เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้และสร้างพฤติกรรมการป้องกันโรคลมร้อนในหน่วยฝึก
ผ่านการให้ความรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้แผ่นตรวจวัด UV และอุณหภูมิ รวมถึงการอ่านผลและตอบสนองอย่างเหมาะสม - เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการฝึกที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โดยบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลสภาพแวดล้อมระหว่างฝึก เพื่อใช้ในการวางแผนและปรับปรุงการฝึกในอนาคต - เพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของกองทัพ
ช่วยให้การดูแลสุขภาพทหารใหม่เป็นไปอย่างเป็นระบบ และลดภาระงานของเสนารักษ์และครูฝึก
คุณลักษณะ
กระบวนการ/วิธีการปรับปรุงแก้ไขโครงการ UV Check
ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมความรู้และข้อมูล (Knowledge Capture)
- เก็บรวบรวมข้อมูลปัญหาโรคลมร้อนจากรายงานการแพทย์และสถิติในหน่วยฝึก
- สัมภาษณ์ครูฝึกและทหารใหม่เพื่อรับฟังประสบการณ์และปัญหาที่พบจริง
- ศึกษาเทคโนโลยีแผ่นตรวจวัดรังสี UV และอุณหภูมิที่มีอยู่ในตลาด
ผลลัพธ์: ได้ฐานข้อมูลและความเข้าใจที่ครบถ้วนสำหรับการออกแบบนวัตกรรม
ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์และออกแบบนวัตกรรม (Knowledge Creation & Sharing)
- วิเคราะห์สาเหตุของโรคลมร้อนและความต้องการของผู้ใช้ (ครูฝึก, ทหารใหม่)
- ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อระดมความคิดเห็นและออกแบบแผ่น UV Check ที่เหมาะสม
- สร้างต้นแบบ (Prototype) ของแผ่นตรวจวัด UV ที่เปลี่ยนสีบอกระดับความร้อน
ผลลัพธ์: ได้รูปแบบนวัตกรรมต้นแบบที่ตอบโจทย์ปัญหาอย่างตรงจุด
ขั้นตอนที่ 3: ทดสอบและปรับปรุง (Knowledge Application & Evaluation)
- นำต้นแบบไปทดลองใช้ในหน่วยฝึกจริง
- รวบรวมข้อมูลผลการใช้งาน เช่น ความแม่นยำ ความสะดวกในการใช้งาน และความพึงพอใจของผู้ใช้
- ประชุมรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแผ่นตรวจ UV ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์: ปรับปรุงนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเหมาะสมกับสภาพจริง
ขั้นตอนที่ 4: ฝึกอบรมและถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer)
- จัดทำคู่มือและสื่อการสอนเกี่ยวกับการใช้แผ่นตรวจ UV Check
- ฝึกอบรมครูฝึกและทหารใหม่ให้เข้าใจวิธีการอ่านผลและการตอบสนองเมื่อพบระดับอันตราย
- ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยฝึกเพื่อเพิ่มการยอมรับและการใช้จริง
ผลลัพธ์: ผู้ใช้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 5: บูรณาการและขยายผล (Knowledge Integration & Sustainability)
- นำระบบ UV Check ไปบูรณาการในกระบวนการฝึกทหารใหม่เป็นมาตรฐาน
- สร้างฐานข้อมูลกลางสำหรับบันทึกข้อมูลรังสี UV และอุณหภูมิระหว่างฝึก เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงในอนาคต
- ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยแพร่ผลสำเร็จในหน่วยงานและระดับกองทัพ
ผลลัพธ์: การปรับปรุงมีความยั่งยืน และพัฒนาต่อเนื่องตามข้อมูลและประสบการณ์จริง
อัลบั้มภาพ ดาวน์โหลดภาพทั้งหมด
